เผยความจริงหมอเถื่อน! และประวัติศัลยกรรมตกแต่งประเทศไทย

หนังสือ ศัลยกรรมตกแต่ง โดย นพ. กิตติ เย็นสุดใจ และคณะ ได้กล่าวถึงประวัติของศัลยกรรมเสริมความงามว่า เริ่มจากการทำศัลยกรรมตกแต่งโดย เซลซัส (Celcus) แพทย์ชาวฮินดูสมัยก่อนคริสตกาล ท่านผู้นี้เป็นผู้วางรากฐานการทำศัลยกรรมตกแต่ง ซึ่งก็มาตั้งแต่สมัยที่ยังไม่มียาสลบ ไม่มีการให้เลือดและยาปฏิชีวนะเลยครับผม

ฮิปโปเครติส
ในประเทศอินเดียสมัยก่อนพุทธกาล ช่างปั้นหม้อตระกูลโคมะ (Kumar) เป็นผู้มีชื่อเสียงใน การเสริมจมูกให้สตรีมีชู้ ที่ถูกตัดจมูกทิ้ง และเป็นเวลาหลายพันปีมาแล้ว ที่ ฮิปโปเครตีส (Hippocrates) แพทย์ชาวกรีกผู้เป็นบิดาแห่งการแพทย์ ได้อธิบายหลักวิธีพันผ้ายึดกระดูกใบหน้าหักรอบ ๆ หน้าผากและคาง

ส่วนการผ่าตัดเสริมความงามของสตรีในเมืองไทย เริ่มต้นประมาณปี พ.ศ. ๒๕๐๐ โดยการชักนำของกลุ่มบุคคลที่มิได้เป็นแพทย์ และส่วนใหญ่ก็เป็นชาวจีน มีร้านรับทำศัลยกรรมของชาวจีนเปิดบริการอยู่สองร้าน คือ ร้านซ่งฮุย ย่านเยาวราช และร้านซุ่ยเต็ก บริเวณเจริญผล ทั้งสองร้านนี้รับทำตาสองชั้น เสริมจมูกให้โด่ง และเย็บใบหูที่กางออกมากเกินไป แต่เนื่องจากผู้ทำไม่ใช่ศัลยแพทย์และมีความรู้น้อย จึงทำให้เกิดความผิดพลาดทางเทคนิคเนือง ๆ บางคนมีอาการอักเสบและติดเชื้อ เป็นผลให้ผู้ที่ไปทำได้รับความเสียหายถึงขั้นฟ้องศาล จึงต้องเลิกกิจการไป

ซึ่งในปัจจุบันนี้ผ่านไปกว่า 60 ปี แล้ว แต่ก็ยังมีผู้ที่เปิดรับทำศัลยกรรม โดยไม่ได้เป็นแพทย์อยู่มากมายเต็มไปหมด และยิ่งเพิ่มมากขึ้นทุกวันๆ เนื่องจากความต้องการของตลาดความงามในไทยยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดมิจฉาชีพที่เราเรียกว่า หมอกระเป๋า หาช่องทางการสร้างรายได้ให้กับตนเอง โดยการอวดอ้างสรรพคุณเทียบเท่ากับแพทย์ แต่มีจุดขายคือราคาที่ถูกกว่า ซึ่งคนไข้ที่ไม่ได้หาข้อมูลที่ถูกต้องอย่างเพียงพอ ก็จะตกเป็นเหยื่อและเกิดผลเสียในอนาคตหลังจากที่ทำศัลยกรรมไปแล้ว ที่มีให้เราเห็นอยู่ทั่วไปในรายการโทรทัศน์ปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นเคสหน้าอกเน่า หรือเคสที่ถูกฉีดสารแปลกปลอมต่างๆ เข้าสู่ร่างกาย
ถึงอย่างไรก็ตาม วงการความงามของเมืองไทย ก็ยังถูกแบ่งออกเป็นสองขั้วขาว-ดำอยู่ดี เพราะเมื่อยังมีคนซื้อ ก็ยังมีคนขาย ดังนั้นสิ่งที่พวกเรารู้แล้วพอจะช่วยสังคมได้ เพื่อที่จะไม่ให้ผู้อื่นตกเป็นเหยื่อหมอกระเป๋าอีกต่อไป นั่นก็คือการเลิกใช้บริการสถานความงามที่ไม่ผ่านการตรวจสอบ และต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสามารถตรวจสอบได้เท่านั้น จึงจะเป็นการสนับสนุนให้วงการศัลยแพทย์ตกแต่งของประเทศไทยเดินก้าวต่อไปได้อย่างมั่นคง
ขอขอบคุณข้อมูลประกอบบทความจาก นพ.กิตติ เย็นสุดใจ
https://villevia.wordpress.com/%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B8%A8%E0%B8%B1/